เทศกาลทานเจปีนี้ไม่ค่อยได้ไปทานอะไรใหม่ๆหรือแปลกที่เท่าไรเพราะรู้สึกว่าอาหารเจเดี๋ยวนี้อร่อยขึ้นจากแต่ก่อนมากๆ แค่หาแถวบ้านทานก็อร่อยมากๆแล้วครับ

แต่สำหรับพื้นที่อย่างทองหล่อหรือสุขุมวิทนั้น ต้องบอกว่าร้านข้างทางอร่อยๆนั้นหายากเหลือเกินจะมีส่วนใหญ่ก็จะเป็นร้านๆไป อย่างเช่นร้านที่ผมจะพูดถึงวันนี้ 

ร้านนี้เป็นร้านมังสวิรัติ-เจที่ขายเป็นปกติทั้งปีครับ ดังนั้นหากไม่ใช่ช่วงเจยังขายได้แปลว่ารสชาตินั้นต้องไม่ธรรมดาทีเดียว

บรรยากาศร้านเป็นแนว Cosy แต่งเหมือนร้านกาแฟนั่งสบายดีครับ ผมเป็นลูกค้าโต๊ะที่3ที่เดินเข้าไปในร้าน ซึ่งก่อนหน้านั้นมีลูกค้าเข้ามารอตั้งแต่ร้านยังไม่เปิดแล้วครับ รออยู่นานพอสมควรกว่าจะได้สั่งอาหาร

ระหว้างที่สั่งอาหาร ก็มีลูกค้าเข้ามาไม่ขาดสาย สักพักก็เต็มร้านจนแน่นทีเดียว สำหรับอาหารต้องบอกว่ารอนานทีเดียวครับ

แต่มาแล้วประทับใจมากตั้งแต่ปอเปียะเวียดนาม แป้งบางของเวียดนามบวกกับผักสดๆและเต้าหู้ทอดข้างใน เข้ากันได้ดีทีเดียว

จานต่อมาเป็นข้าวซอยเจครับ จานนี้เกือบผ่านหมดแล้วครับ มาเสียที่ไม่มีเส้นทอด จริงๆมันทอดทิ้งไว้ก่อนได้นี่น่า

จานต่อไปเป็นแกงเขียวหวานอร่อยเข้มข้มครับ หอมเครื่องแกง

ข้าวผัดผัดได้ร่วนมากๆครับ ส่วนจานสุดท้ายเป็นลาบคั่วเจ มันมาเป็นลาบเฉยๆน่ะสิครับ

สรุปอาหารอร่อยทุกอย่างถึงแม้จะมาแบบขาดๆไปบ้าง แต่ต้องบอกว่าอาหารมาช้ามากๆ ขาดความต่อเนื่อง เห็นได้จากหลายๆโต๊ะลุกออกไป

ปล. ได้ยินว่าทางร้านจะย้ายที่เร็วๆนี้ครับ และจะมีเมนูซูซิเจเพิ่มขึ้นมา

เย็นตาโฟ ฮื่อก้วย ลูกชิ้นกุ้งแสนอร่อย!!
ร้านนี้เป็นร้านเย็นตาโฟลูกชิ้นปลาเก่าแก่เปิดมาหลายสิบปีแล้วครับ และเป็นร้านที่ทำให้ผมรู้จักกับบะหมี่เป๊าะหรือบะหมี่เส้นแบนตั้งแต่เด็กๆทีเดียว เพราะสมัยก่อนร้านที่มีหมี่เป๊าะมักเป็นร้านที่ค่อนข้างอร่ิยและรสชาติจีน หรือดั้งเดิมใช้ได้ สำหรับร้านนี้ก็เช่นกัน ลูกชิ้นปลา ฮื่อก้วย ลูกชิ้นกุ้งทางร้านทำเองทั้งหมดครับ ซึ่งผมยกให้ว่าเป็นร้านที่ยังทำลูกชิ้นกุ้ง และ ฮื่อก้วยได้อร่อยที่สุดในบรรดาร้านเก่าแก่ที่ยังเหลืออยู่ หลายๆร้านไม่มีร้านไหนพิถีพิถันแบบนี้อีกแล้ว 

จริงๆร้านนี้แต่ก่อนแวะเวียนมาค่อนข้างบ่อย แต่เดี๋ยวนี้จะมาเฉพาะเวลาเอารถมาล้างครับ การเดินทางค่อนข้างสะดวก หากขับรถมาลงทางด่วน สุขุมวิท 62 ขับมาถึงปากซอยเลี้ยวซ้าย สามารถจอดรถได้ที่ปั๊มเชลล์รับบัตรและมาปั๊มบัตรในร้านได้ หรือจะจอดที่ล้างรถหน้าปากซอยย่อมได้ครับ (ร้านล้างรถดีมาก) เดินย้อนมาทางสึขุมวิทก็จะเจอร้านครับ หากมา BTS ลงสถานีบางจากครับ 

วันนี้ผมสั่งบะหมี่เป๊าะเย็นตาโฟซึ่งเป็นเมนูเด็ดของทางร้านครับ ในชามให้เครื่องมาอย่างเต็มที่ ทั้งเลือด เต้าหู้ ปลาหมึก ผักบุ้งที่คัดมาแต่ใบและก้านอ่อนๆ รวมถึงบรรดาลูกชิ้นทำเองของทางร้าน และเกี๊ยวห่อหมูทอด อร่อยทุกอย่างครับ แม้แต่เต้าหู้ทอดยังหอมเลยครับ ซุปหอมกลมกล่อมมากๆ สมเป็นร้านเก่าแก่ถึงแม้จะเปลี่ยนมาเป็นรุ่นลูกแล้วก็ตาม

ชามต่อมาเป็นหมี่เป๊าะแห้งครับ อร่อยเช่นกันแต่ทำให้ผมคิดถึงน้ำซุปเปล่าของทางร้านที่อร่อยมากๆ จนอยากสั่งบะหมี่น้ำอีกชามแต่ทานไม่ลงแล้ว 

นอกจากนั้นทางร้านยังมีน้ำสมุนไพรจ่างๆรวมถึงเค้กให้บรการครับผม

สรุปว่าเป็นร้านเก่าแก่ที่ผมทานแต่เด็กแต่ยังคงรักษาคุณภาพทุกอย่างได้อย่างดีอีกร้านนึงครับ ใครอยากทานเย็นตาโฟรสชาติเก่าแก่ลูกชิ้นทำเองมาร้านนี้ไม่ผิดหวังครับ 

ปล. สั่งลูกชิ้นกุ้งทอดและฮื่อก้วยกล้บบ้านได้ครับ สุดยอดมาก อร่อยกว่าลูกชิ้นกุ้งที่ซื้อในตลาดเก่าเยาวราชแน่นอน

อาหารทะเลสดอร่อยราคาแสนโหดกลางเมือง
วันนี้มีโอกาสพาแขกเมืองมาทานข้าว และเนื่องจากแขกเมือง request มาว่าอยากทานอาหารทะเลอร่อยๆ อืม...กลางเมืองแถวสาทร นราธิวาสก็มีอยู่ไม่กี่ร้าน แถมราคาค่อนข้างสูงไปทุกร้าน ไหนๆก็จะจ่ายแพงอยู่แล้วก็ไปร้านที่มันสุดไปเลยดีกว่า ดีกว่าฝ่ารถติดไปทานตามชานเมืองแถมตอนส่งแขกเมืองก็ง่ายอีก ดังนั้นจึงมาเป็นร้านนี้ครับ

สำหรับร้านนี้นั้นขึ้นชื่อเรื่องความสดของวัตถุดิบ และ ขนาดครับ เพิ่มแกจะคัดมาแต่ของไซส์ใหญ่พิเศษ

อาหารที่สั่งไปวันนี้เริ่มจาก หอยแครงลวก มาแบบตัวใหญ่มาก ถ้าใหญ่กว่านี้คงต้องไปทานภูเก็ตแล้วครับ สนนราคาประมาณตัวละ 20!! หลังจากลวกแล้วทางร้านจะนำไปแช่เย็นครับ เสิร์ฟมาจะรู้สึกถึงความสด ชุ่มช่ำและกรุบกรอบของหอยอย่างยิ่ง

จานต่อมาทอดมันปลาครับ มาแบบใหญ่เบิ้มอีกแล้ว ชิ้นละ 50 บาท สำหรับจานนี้ผมว่าอร่อยดีครับแต่ยังไม่ขนาดโอ้ว

ต่อมาเป็นกุ้งเผาครับ ขนาดปกติไม่ได้ตกใจและแพงนรกแตกแบบร้านดังที่สิงห์บุรี กุ้งเผานั้นผมว่าถ้าสดและย่างดีนั้น โอเคหมดครับ

มาถึงไฮไลท์วันนี้ปูทะเลครับ แอบเซ็งปูไข่วันนี้ไม่มี ปูที่นี่จะมาแบบเห็นก้ามปูแล้วตกใจ หวานและเด้งสุดๆ ขนาดแทบจะเป็นเยลลี่ปูเลยทีเดียว สุดมากๆครับจานนี้ แต่ราคาก็สุดขนาดตกใจได้เหมือนกัน

อ่อ อีกอย่างที่ผมว่าสุดๆไปเลยสำหรับร้านนี้คือเบียร์!! แช่มาแบบว่าพอดีที่สุดสำหรับคอเบียร์ ไม่ต่องใส่น้ำแข็งเลยแม้จะดื่มใกล้หมดขวดก็ตาม

ตบท้ายด้วยข้าวเหนียวมะม่วง 150 บาทให้แขกเมืองทาน สรุปมื้อนี้ 4,5XX...... แขกเมืองบอกว่าสมราคามาก อืม...ผมว่าโหดอะดิ 

ปล. เฉินหลงยังมา

ที่สุดของข้าวหมูแดงในไทย (ความคิดผม)
สำหรับร้านนี้ผมเคยเข้ทรีวิวไปแล้วรอบนึงแต่แทบไม่มีรายละเอียดอะไรเลย เนื่องจากความอร่อยของร้านนี้อยู่แล้วแทบไม่มีอะไรต้องพูดถึง จริงๆแล้วร้านนี้ตั้งแต่จำได้สมัยสัก ผมประมาณ 3-4 ขวบ คุณพ่อผมก็พามาทานละครับ แต่สมัยนั้น จะมีเด็กกี่คนจะชอบทานข้าวหมูแดงโดยเฉพาะเวลาเจอร้านร้อนๆ ข้าวที่ไม่ใช้ข้าวหอมมะลิที่ทานแล้วแห้งๆ จนมาอายุเริ่มมาขึ้นทานข้าวหมูแดงมาหลายร้านแต่ก็คิดในใจว่าทำไมร้านอื่นไม่อร่อยเท่าร้านนี้เลย

แต่ก่อนร้านนี้เปิดประมาณ 5 โมงครับ สักทุ่มครึ่งของก็เริ่มหมดแล้ว สองทุ่มนี่ไม่ต้องพูดถึงร้านแทบปิดแล้วครับ จำได้ว่าจะต้องสั่งหมูสะเต๊ะร้านติดกันมาทานด้วยเสมอ

พอมาสักประมาณมัธยมร้านนี้เปลี่ยนเวลาเปิดครับ เปิด 11.00 น ถึง ประมาณ 20.00 ถือว่าเป็นสวรรค์เลยทีเดียว คาดว่ามีคนเฮไม่น้อย จุดเด่นของร้านนี้คือ ทุกองค์ประกอบที่ประกอบเป็นข้าวหมูแดงครับ ตั้งแต่หมูแดงแทรกมันที่ย่างออกมาหอมกลิ่นถ่านนิดๆ หอมกรอบชิ้นใหญ่ที่กรอบและหอมกลิ่นไหม้บริเวณหนังหมู กุนเชียงที่ย่างมาได้พอดีไม่แห้งและไม่แข็ง ไข่ยางมะตูมที่ทานทีละลายในปาก พร้อมน้ำราดเข้มข้นสูจรเฉพาะร้านนี้เท่านั้น (คนชอบหวานไม่น่าชอบครับ) ถ้าเทียบกับร้านดังในนครปฐม นครปฐมนี่หวานจนผมทานแทบไม่ได้ หรือหลายร้านที่หมูไม่แห้งเกินไป ก็หั่นซะบางเฉียบ จนน่าจะไปหั่นหมูชาบูแทนที่จะมาหั่นหมูแดง ส่วนต้นหอมและพริกร้านนี้ล้างมาสะอาดครับ ตัดปลายเรียบร้อยให้เต็มที่ไม่มีงก 

ทางร้านยังมีซุปให้ทานเวลาผืดคอครับ ซุปเป็ดตุ๋นมะนาวดองที่มีทุกวัน และมะระซี่โครงที่มี อังคาร พฤหัส และน่าจะวันเสาร์ 

สำหรับราคา 48 บาทใส่ไข่ เทียบกับปริมาณและคุณภาพดีกว่าหลายๆร้านที่ขาย 50 และมีนิดเดียวครับ ส่วนพิเศษนั้นไม่ต้องพูดถึง 88 บาท หมูให้มาใหญ่กว่าหมูชาชูในร้านราเมนอีก

ปล. อย่าลืมสั่งหมูสะเต๊ะและตับ ร้านข้างๆ มาทานด้วย

เนื้อย่างอันดับต้นๆในเมืองไทย
ร้านนี้ผมเคยรีวิวไว้แล้วในสาขาที่สองในเมืองไทยครับ สำหรับสาขานี้เป็นสาขาแรกที่มาไทย เนื้อย่าง brand นี้ เป็น franchise ที่มีสาขามากมายในประเทศญี่ปุ่นรวมถึงหลายๆประเทศทั่วโลก ถือว่าเป็นมาตรฐานเนื้อย่างสำหรับชาวญี่ปุ่นครับ 

แต่สำหรับมาตรฐานนั้นพอมาอยู่บ้านเรามันเป็น above average ครับ เพราะมาตรฐานที่ต่างกันค่อนข้างมากนั่นเอง รวมไปถึงการจัดการของเจ้าของร้านที่เอาใจใส่ลูกค้ามากถึงมากที่สุด ขนาดมาดูแลร้านด้วยตนเอง (ผมไปกี่ครั้งเจอทุกครั้งเลยครับ) 

สำหรับรสชาตินั้นคงไม่ต้องพูดอะไรกันมากครับ เพราะได้รสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ๆแน่นอน และมีซอสที่เป็นสูตรต้นตำรับทานร้าน ที่เหมาะกับข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆ อร่อยมากครับ สำหรับผู้ที่ไม่ชอบและติดหวานนั้นก็มีซอสสำหรับลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะครับ (รสจะติดหวานครับ) สำหรับผู้ที่ต้องการความจัดจ้าน สามารถขอพริกกระเทียมและมะนาวได้อีก 

และเนื่องร้านนี้ไม่ใช่ร้านปิ้งย่างแบบบุฟฟเฟ่ต์ ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่อง quality ของเนื้อครับ ไม่ใช่การคิด cost แบบบุฟเฟ่ต์แน่นอน และ ต้องไม่ให้เสียชื่อของร้านระดับโลก ดังนั้นเนื้อนุ่มและช่ำมากๆ ผมาทานผู้ชาย 3 คน สั่งเนื้อแบบ 2 คน จานละ 800 บาท ที่มีเนื้อสามชนิดและลิ้น ถือว่า อิ่มมากแล้วครับถ้าคุณไม่ได้กระเพาะมารมาจากไหน รวมเบียร์ ซุป สลัด ข้าวผัดกระเทียม ถือว่าได้เนื้อคุณภาพในระดับที่ดีกว่าร้านบุฟเฟ่ต์หลายเท่า พร้อมบริการในระดับที่พึงพอใจครับ สำหรับผู้ที่ไม่ทานเนื้อหมูร้านนี้ก็ใช้ได้เลย สำหรับซีฟู้ดผมเคยลองแต่แซลมอนครับ ยังชอบอีกร้านนึงมากกว่า 

สำหรับซุปกิมจิและราเมน รสชาติติดหวานครับ -"- เหตุผลเคยอธิบายในรีวิวอีกร้านแล้วครับ 

นอกจากนี้ทางร้านยังมีเซตกลางวันที่คุ้มค่ามากๆ เนื้อย่างคุณภาพช่ำๆ จิ้มซอสแล้วแปะบนข้าวสวยร้อนๆนี่สุดจริงๆครับ